Price Action คือศาสตร์ที่ว่าด้วยการสังเกตพฤติกรรมของราคาที่กระทำกับเครื่องมือ, Indicators, Support & Resistance ที่มีนัยสำคัญ ส่วนมากแล้วเมื่อใดที่เกิด price action เกิดขึ้นนั่นมักจะเป็นสัญญาณที่มีนัยสำคัญว่า "ราคามีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนเทรน ย้ำ! ว่าแค่เป็นไปได้เฉย ๆ อาจจะไปต่อหรือกลับตัวก็ได้" Price Action นั้นประกอบไปด้วยการสังเกตกราฟ Bar Chart หรือ Candlestick Chart Patterns 4 รูปแบบคือ Inside Bar, Outside Bar, Pin Bar และ Fakey Setup
Price Action และ Japanese Candlestick Patterns เหมือนกันและต่างกันอย่างไร?
-ต่างกันตรงที่รูปแบบการเรียกชื่อที่ Japanese Candlestick จะมีชื่อเรียกเยอะกว่าเพราะ Japanese Candlestick มีรูปแบบทั้งหมด 105 รูปแบบ (อ้างอิงจาก Thomas N. Bulkowski: Encyclopedia of Candlestick Charts) เช่น Engulfing Pattern, Hammer, Dark Cloud cover ฯลฯ ในขณะที่ Price Action เป็นการนำความรู้จาก Candlestick Charts Pattern มาประยุกต์อีกที สิ่งที่ทำให้ Price Action แตกต่างจาก Japanese Candlesticks อีกอย่างหนึ่งก็คือ"การเน้นที่ระยะหรือ range ของแท่งเทียนก่อนหน้าหรือแถ่งถัดไป" และรูปแบบของก็มีอยู่เพียง 4 รูปแบบคือ Inside Bar, Outside Bar, Pin Bar and Fakey Setup
-สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง 2 ศาสตร์ นี้คือรูปแบบบางรูปแบบเช่น Pin Bar ของ Price Action ก็คือ Hammer, Shooting Star ของ Japanese Candlesticks อีกสิ่งหนึ่งที่ Price Action ใช้ก็คือ Concept ที่นำมาจากรูปแบบ Engulfing Pattern เช่น Outside Bar ต้น นอกจากนั้น Price Action ยังไม่เน้นเรื่องของ Body หรือ Shadow มากเท่า Japanese Candlesticks
หลังจากที่เกริ่นเรื่องของ Price Action ไปได้สักนิดนึงแล้วทีนี้ผมก็จะพาทุกท่านเข้าสู่โลกของ Price Action กันสักที เราไปเริ่มกันที่ 2 รูปแบบแรกกันเลย Inside Bar, Outside Bar
-รูปแบบของเทรนไม่ว่าจะเป็น uptrend downtrend จะไม่มีความสำคัญต่อชื่อของรูปแบบของ Price Action มากนักเห็น inside bar เกิดฝั่งไหนก็ดูราคาดี ๆ แล้วก็เตรียมตัวเข้าอีกฝั่งได้เลย ไม่เหมือนกับ Japanese Candlesticks ที่ต้องมี 2 ชื่ออย่าง Piercing Pattern กับ Dark Cloud Cover
Inside Bar, Outside Bar สิ่งหนึ่งที่นับจากนี้ทุกคนที่จะเรียนรู้เรื่องนี้ต้องจำไว้ก็คือเรื่องของ Mother Bar เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรื่อง Price Action ครับ Mother Bar คือแท่งเทียนที่มี high กับ low สูงกว่าแท่งก่อนหน้าหรือแท่งถัดไป โดยลักษณะที่สำคัญคือ Mother Bar จะมีrange หรือระยะของแท่ง Mother Bar จะต้องคลุมแท่งก่อนหน้าหรือถัดไปทั้งหมดเหมือนในรูป อีกวิธีนึงที่จะช่วยให้เราเช็คได้ว่าแท่งนี้เป็น Inside Bar หรือเปล่าคือ inside bar จะเป็นแท่งที่มี higher low และ lower high กว่าแท่ง mother bar เหตุผลที่ผมเอาเรื่อง Inside Bar มาคู่กับ Outside Bar เพราะ 2 เรื่องนี้แชร์ concpet คล้าย ๆ กันคือมีเรื่องระยะหรือ range ของ mother bar ที่เหมือนกันแต่ต่างกันที่การเกิดของ mother bar เท่านั้น
Inside Bar
-Mother Bar จะเกิดก่อนหน้าแท่ง Inside Bar พอเกิด Inside Bar ขึ้นเราถึงจะเรียกแท่งข้างหน้ามันว่า Mother Bar
-Inside Bar ไม่จำเป็นจะต้องมีแท่งเดียว Inside Bar สามารถมีได้มากกว่า 1 แท่งไปจนกว่าจะมีแท่งที่สามารถทะลุ range ของ mother bar ได้
-Inside Bar มักจะบอกเราว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายเริ่มเกิดความไม่มั่นใจในเทรนที่ตัวเองถือมาและราคาอาจจะเกิดการพักตัว
Outside Bar
-Mother Bar จะเกิดหลังจากแท่ง Inside Bar โดยแท่ง Mother Bar จะมีจุดสูงสุดและต่ำสุดมากกว่าแท่งก่อนหน้าเรียกได้ว่า Outside bar เหมือนกับว่า Engulfing โดยไม่ต้องสนใจเรื่องของ body หรือ shadow เหมือนในรูป
-สีของ Mother Bar สามารถบอกได้ถึงทิศทางที่ราคาจะไปในอนาคตได้ด้วย ส่วนมากแล้ว Outside bar มักจะเป็นรูปแบบการไปต่อของราคาด้วย (Continuation Pattern)
Pin Bar ผมขอไม่อธิบายมากนะครับสำหรับรูปบบนี้เพราะได้พูดไปในรูปแล้ว Pin Bar นั้นเป็นคำย่อมาจาก Pinocchio Bar อย่างที่บอกไปว่า Price Action นั้นจะเป็นศาสตร์ที่เน้นเรื่องระยะของแท่งเทียนแบบแท่งต่อแท่งโดยส่วนใหญ่ Pin Bar ก็เช่นกัน ถ้าจะให้ดีราคาเปิดราคาปิดจะต้องกลับมาปิดใน range ของแท่งก่อนหน้าหรือแท่งถัดไปให้ได้ เพราะมันจะเป็นการยืนยันว่าราคาไม่สามารถทะลุแนวของแท่งก่อนหน้าไปได้
Fakey Setup แท่ง Fakey Bar บางครั้งก็สามารถเป็น pin bar ได้ เพราะทั้ง 2 รูปแบบแขร์ concept เดียวกันคือ ต้องกลับมาปิดอยู่ในระยะของ mother bar
Inside Bar จากรูปจะเห็นได้ว่าแท่ง inside bar ทำ lower high + higer low ตามที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้และหลังจากนั้นราคาก็ปรับตัวลงไปเลย
หากมองแท่ง Outside Bar ว่าเป็นการ Engulf หรือกลืนกินแท่งก่อนหน้าก็จะเข้าใจ concept ของมันครับ เพราะมันไม่ต้องสนใจ body หรือ shadow ใด ๆ ของแค่ range ของแท่งมันได้ตามกฎก็พอแล้ว จากรูปจะเห็นได้ว่าพอเกิด Outside Bar จากนั้นราคาก็ขึ้นไปตามสีของแท่ง outside bar เลย
Fakey Setup จาก range ของ mother bar จะเห็นได้ว่าราคากลับไปปิดอยู่ในระยะของแท่ง mother bar มันทะลุหลอก (Fault Breakout) แล้ววกกลับมา สำหรับผมผมว่ารูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่มีความเป็นไปได้สูงมากเรื่องการกลับทางของเทรน
Pin Bar
สรุป: สำหรับ Price Action นี้เรื่อง range ของแท่งที่เป็นไปตามกฎนั้นถือว่าสำคัญและเป็นสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจาก Japanese candlesticks ยังไงก็ลองฝึกดูฝึกสังเกตในกราฟของท่านดูนะครับ ผมมั่นใจว่ามันหาไม่ยากและมีให้ทุกท่านเห็นบ่อย ๆ ฝนกราฟของท่าน อย่างไรก็ตามการปรบมือข้างเดียวไม่อาจจะดังได้ ต้องเอาเครื่องตัวอื่นมาช่วยดูด้วยเพราะการยืนยันสัญญาณที่ชัดเจนครับ โชคดีและร่ำรวยครับ วิธีการเทรด Price Actionหลังจากที่พี่ ๆ น้อง ๆ ได้อ่านแล้วว่า Price Action มีอะไรบ้างหน้าตาเป็นยังไง ทีนี้ผมจะมาพูดถึง model ในการเทรด Price Action ทั้ง 4 แบบ วิธีที่ผมจะสาธิตเป็นเพียง 1 ในวิธีเทรดเท่านั้นนะครับ ไม่จำเป็นต้องเทรดตามวิธีที่ผมบอกก็ได้ ขอแค่ปรับวิธีการเทรดให้มันเข้ากับ money management และ สไตล์ของท่านก็พอครับ เพราะในสนามจริงเราอาจจะไม่ได้ตัดสินใจตามนี้ก็ได้ครับ อย่างที่ผมบอกครับว่า Price Action บอกเพียงแค่ว่าราคาที่วิ่งมาในเทรนเดิมอาจจะหยุดพักหรือปรับตัว ดังนั้นการสวนเทรนจึงถือว่าเป็นความคิดที่เสี่ยงหากจะลงหนัก ๆ ตั้งแต่ order แรก เพราะเกิดไม่เป็นไปตามที่คิดละก็เจ็บหนักแน่ ๆ ครับ Inside Bar Trading วิธีการเข้าของผมก็คือผมจะแบ่ง lot ก่อนครับเช่นผมตั้งใจว่าจะเล่น 0.1 lot หรือ จุดละ 1$ เมื่อเจอ Inside Bar แรกปุ๊ปก็แหย่ไปก่อน 0.01 lot เพื่อดูว่ามันจะเอายังไง แนวนี้จะเอาอยู่ไหม ข้อดีของไม้แรกคือ Stop loss จะอยู่ใกล้ mother bar เวลาเสียจะเสียนิดเดียวครับหากราคาสามารถทะลุ stop loss ได้ (แล้วถ้ามันทะลุแล้วเหวี่ยงกลับละ? มันก็จะไปเข้า concept ของ Fakey Setup โดยอัตโนมัติครับ ส่วนทำยังไงงั้นเดี๋ยวจะบอกในการเทรด Fakey Setup ครับ) หากราคาวิ่งขึ้นไปเราก็ pending opder หรือรอเปิดมือไว้ที่ราคาเปิดของแท่ง mother bar ครับตรงตำแหน่ง buy 2 ณ จุดนี้เราอาจจะลงหนักขึ้นอาจจะลงเป็น 0.04 lot การตั้ง SL สำหรับไม้ 2 นั้นจะตั้งไว้ที่ราคาเปิดของแท่งที่เข้าหรือ Stop loss ที่ mother bar ก็ได้ครับแล้วแต่ว่าใครรับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ ราคาส่วนมากเมื่อทะลุแนวต้านไปแล้ว มักจะกลับลงมาเทสแนวเดิมครับเราก็รอใส่ไม้ที่ 3 แถวแนวรับของ mother bar เป็นไม้ buy ที่ 3 ส่วน stop loss ก็เหมือนเดิมครับ
อันนี้เป็นภาพของขาลงครับ วิธีการเทรด outside bar ก็เหมือนกับ inside bar นะครับตั้ง SL ไว้ที่ปลายของแท่ง mother bar ได้เลย
วิธีการเทรด Pin Bar ก็คล้าย ๆ กับ inside bar ครับไม้อาจจะน้อยลงเราก็อาจจะเปลี่ยนไม้แรกเป็น 0.05 ไม้ 2 อีก 0.05 ก็ได้ครับ Stop loss ก็ตั้งไว้เหนือ Pin Bar ครับ ขาขึ้นก็ทำเหมือนกันแต่ทำในด้านตรงกันข้ามนะครับ สำหรับ Fakey Setup นี้ไม้แรกอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ นี่เป็นเหตุผลที่ผมให้เข้าน้อย ๆ ในไม้แรกครับ เพื่อจะเจอกรณีแบบนี้ ความจริงการเข้าตั้งแต่แรกแบบผมก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะครับ บางคนอาจจะไม่เข้าแล้วรอจังหวะ 2 ให้แน่นอนแล้วค่อยตาม ก็ทันครับ สำหรับในภาพไม้แรกจะชน Stop loss แน่นอนครับ แต่ไม่เป็นไรครับนิดหน่อย พอเราเห็นว่าจังหวะที่ชน SL เราเป็น Fakey Bar เราก็อัดซ้ำตรง Fakey Setup เลยครับ อาจจะลงไป 0.05 เลย แล้วก็รอซ้ำอีกทีตอนที่มันทะลุแนวรับของ Mother Bar ไปครับ
นี่เป็นเพียงการสาธิตวิธีการเทรด Price Action 1 แบบเท่านั้นนะครับ ยังมีอีกหลากหลายวิธีในการเทรดซึ่งต้องเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับสไตล์ของเรา จำไว้ว่าอย่า over lot หรือมั่นใจเกินไปก็พอครับเพราะถ้าบังเอิญไปเจอของดีเท่า (เช่นข่าว) Price Action ก็ไม่รอดครับ
